share line share line

วัดป่าประดู่ วัดพระนอนตะแคงซ้ายแห่งเดียวในประเทศไทย

                วัดป่าประดู่ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๓ เเต่เดิมชื่อ "วัดปาเลไลยก์" เป็นวัดร้าง โดยอุปัชฌาย์เทียนผู้พบวัดนี้ได้มาจำพรรษาเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่นี่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเกิดศรัทธาเลื่อมใสในท่าน จึงชักชวนกันสร้างกุฏิถวาย และร่วมกันฏิสังขรณ์วัดนี้จนเจริญสืบมาต่อมา เเละเพื่อให้สอดคล้องกับนามหมู่บ้านที่วัดตั้งอยู่คือ ตลาดท่าประดู่ อีกทั้งเพราะมีต้นประดู่ใหญ่อยู่ภายในวัดเป็นจำนวนมากและเพื่อมิให้ชื่อวัดพ้องกับวัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย จึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น “วัดป่าประดู่”
                “วัดป่าประดู่”  ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในเขตเทศบาลนครระยอง ถนนสุขุมวิท จังหวัดระยองในปัจจุบัน ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายที่เก่าแก่ เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุดในประเทศไทย โดยปกติแล้วเมื่อมีการสร้างองค์พระปางสีหไสยาสน์ มักจะสร้างประทับอยู่ในท่านอนตะแคงขวา แต่พระพุทธไสยาสน์ที่วัดป่าประดู่สร้างในท่านอนตะแคงซ้าย มีความยาว ๑๑.๙๕ เมตร สูง ๓.๖๐ เมตร ขนาดใหญ่ ซึ่งลักษณะพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายมีความพิเศษคือ มีการหนุนพระเศียรด้วยหัตถ์ซ้าย สังเกตจากพระเกศ ไรพระศก จีวรแล้ว น่าจะอยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ ดูแลรักษาอย่างดี ไม่มีใครทราบอายุและประวัติมาก่อน ดูจากพระเกศ ไรพระศก จีวรแล้ว น่าจะเป็นอิทธิพลสมัยอยุธยาปัจจุบันพระพุทธรูปทั้งสององค์ ได้รับการบูรณะไว้ จึงถือเป็นพระเก่าแก่คู่บ้านเมืองของระยองแห่งหนึ่ง และวัดป่าประดู่ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๓ 
                 วัดป่าประดู่ ก่อนสร้างวัดเมื่อประมาณ พ.ศ.2372 โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ อุปัชฌาย์เทียน เดิมจำพรรษาอยู่ที่ วัดเนิน (หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดอินทรสมบัติ ปัจจุบันรวมกับวัดลุ่มมหาชัยชุมพล) ได้มาพบสถานที่แห่งนี้เป็นวัดร้าง มีต้นตะเคียนเป็นจำนวนมาก มีซากวัดที่เหลือแต่ซากโบสถ์ ซากพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และซากองค์พระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปาเลไลยก์
                 วัดป่าประดู่แห่งนี้จึงเคยมีชื่อเดิมว่า "วัดป่าเลไลยก์" อุปัชฌาย์เทียนจึงได้มาจำพรรษาเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่นี่ บรรดาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงศรัทธาเลื่อมใสในท่าน จึงชักชวนกันสร้างกุฏิถวาย และร่วมกันฏิสังขรณ์วัดนี้จนเจริญสืบมาต่อมา เเละเพื่อให้สอดคล้องกับนามหมู่บ้านที่วัดตั้งอยู่คือ ตลาดท่าประดู่ อีกทั้งเพราะมีต้นประดู่ใหญ่อยู่ภายในวัดเป็นจำนวนมากและเพื่อมิให้ชื่อวัดพ้องกับวัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น “วัดป่าประดู่” ภายในวัดป่าประดู่ มีพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายที่เก่าแก่ เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุดในประเทศไทย โดยปกติแล้วเมื่อมีการสร้างองค์พระปางสีหไสยาสน์ มักจะสร้างประทับอยู่ในท่านอนตะแคงขวา แต่พระพุทธไสยาสน์ที่วัดป่าประดู่สร้างในท่านอนตะแคงซ้าย มีความยาว ๑๑.๙๕ เมตร สูง ๓.๖๐ เมตร ขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ พระครูสมุทรสมานคุณ (แอ่ว) อดีตเจ้าอาวาส ได้บูรณะองค์พระส่วนที่ชำรุดแล้วปิดทองใหม่ มีผู้สันนิษฐานว่า เป็นการสร้างตามพระพุทธประวัติ ตอนพระพุทธเจ้ากระทำยมกปาฏิหาริย์ให้พวกเดียรถีย์ชม โดยมีพระพุทธนิมิตแสดงอาการอย่างเดียวกับพระพุทธเจ้าเป็นคู่ๆ เมื่อถึงอิริยาบถไสยาสน์จึงผินพระพักตร์เข้าหากันเป็นการนอนตะแคงซ้าย และขวาในลักษณะเดียวกัน ผู้สร้างจึงสร้างให้มีนัยของพุทธปาฏิหาริย์ดังกล่าว จึงสร้างเป็นพระนอนตะแคงซ้าย ซึ่งลักษณะพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายมีความพิเศษคือ มีการหนุนพระเศียรด้วยหัตถ์ซ้าย สังเกตจากพระเกศ ไรพระศก จีวรแล้ว น่าจะอยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ ดูแลรักษาอย่างดี ไม่มีใครทราบอายุและประวัติมาก่อน ดูจากพระเกศ ไรพระศก จีวรแล้ว น่าจะเป็นอิทธิพลสมัยอยุธยาปัจจุบันพระพุทธรูปทั้งสององค์ ได้รับการบูรณะไว้ จึงถือเป็นพระเก่าแก่คู่บ้านเมืองของระยองแห่งหนึ่ง และวัดป่าประดู่ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๓
                  วัดป่าประดู่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในเขตเทศบาลนครระยอง ถนนสุขุมวิท จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนในการปฏิบัติศาสนกิจและพิธีการทาง ศาสนาของประชาชนในเมือง

วัดป่าประดู่ พระอารามหลวง ถนนสุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21000
โทร. 03 861 1320, 03 861 5593  โทรสาร. 03 861 5537

แผนที่นำทาง https://maps.app.goo.gl/vMPbPi53MBhFhvMTA

อ้างอิง : 

1) องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง