share line share line

ประวัติวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง

เดิมชื่อว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม วัดบางพลีใหญ่ใน อำเถอบางพลี จัหงวัด สมุทรปราการ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของ จังหวัดสมุทรปราการ ณ ริมคลองสำโรง เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อพุทธศักราช ๒๓๒๐ ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา (เขตที่ได้พระราชทานแก่สงฆ์ สำหรับใช้เป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรม) เมื่อวันที่ ๖​ กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ และได้รับพระราชทานให้ยกวัดบางพลีใหญ่ใน เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งมีพื้นที่กว่า ๔๐ ไร่ เป็นที่ดินที่เจ้าของอุทิศให้แก่วัดหรือพระพุทธศาสนา ๔๐ ไร่ ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ ได้จัดซื้อที่ดินเพิ่มเป็นจำนวน ๙ ไร่ ๒ งาน ๕๓ ตารางวา ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ ได้จัดซื้อที่ดินเป็นจำนวน ๓ งาน ๗๒ ตารางวาและในปีพุทธศักราช ๒๕๕๖ ได้จัดซื้อที่ดินเป็นจำนวน ๑ ไร่ ๑ งาน ๕๒ ตารางวา และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ ได้จัดซื้อที่ดินเป็นจำนวน ๓๓ ไร่ ๑๓ ตารางวา โดยพระราชเสนาบดี (จรัล สิริธมฺโม วงษ์ดี) รวมเป็นที่ธรณีสงฆ์ทั้งสิ้น ๑๒๗ ไร่ ๑ งาน ๔๙ ตารางวา ในครั้งอดีตใช้ชื่อว่าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม โดยประชาชนทั่วไปเรียกว่า วัดใหญ หรือ วัดหลวงพ่อโต

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีจารึก กล่าวว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสดเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา ๒ ครั้ง ในปีพุทธศักราช ๒๑๑๒ และต่อมาสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกอบกู้อิสรภาพ และมีชัยในสงครามอีกหลายต่อหลายครั้งจนสร้างให้อาณาจักรของไทยแข็งแกร่งแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ณ กาลหนึ่งพระองค์ทรงยาตรากองทัพ ขับไล่อริราชศัตรู ที่ถอยร่นมาทางทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยา จนถึงตำบลหนึ่งซึ่ไม่ปรากฏนาม พระองค์ทรง สั่งให้หยุดทัพ พักทหารกล้าและไพร่พล พร้อมทรงทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงหาฤกษ์ยาม อันเป็นินมิตตามตำรับพิชัยสงคราม กล่าวคือ ตามประเพณีมีการปลูกศาลเพียงตา ครบพร้อมทั้ง เครื่องเซ่นสังเวยมี ข้าวตอก ดอกไม้ สัตว์สี่เท้า สัตว์สองเท้า ขนมต้มขาว ขนมส้มตำ ขนมต้มแดง ฯลฯ พร้อมทั้งอัญเชิญพระแสงปืน พระแสงดาบ และสรรพวุธ เพื่อเข้าพิธีพลีกรรมบวงสรวงนี้ พร้อมทั้งตั้งสัจจะอธิษฐานต่อเทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า "หากพระองค์ยังมีบุญญาธิการปกครองไพร่ฟ้า ประชาชน พร้อมทั้งบ้านเมือง ให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ขอให้พระองค์จงมีชัยชนะ ต่ออริราชศัตรูทั้งมวล" ครั้งเมื่อพระองค์ทรงกรีฑาทัพรบได้ชัยชนะ จึงทรงยาตราทัพกลับสู่ กรุงศรีอยุธยาย้อนกลับมาทางเดิม ณ ตำบลที่ไม่ปรากฏนาม ซึ่งพระองค์ทรงทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงไว้นั้นทรงรับสั่งให้สร้างพลับพลาขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์สถานในชัยชนะของพระองค์ และทรงขนานพระนามว่า "พลับพลาชัยชนะสงคราม"

ต่อมาชาวบ้านในละแวกนั้นพร้อมใจกันร่วมสร้างวัดขึ้น ณ บริเวณพลับพลานี้เพื่อเป็นพุทธบูชาและเรียกชื่อวัดแห่งนี้ว่า "วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม" ส่วนตำบลที่มีชื่อว่า "บางพลี" เนื่องมาจากสาเหตุที่สมเด็จพระนเรศศวรมหาราช ทรงทำพิธีพลีกรรมบวงสรวง ดังนั้นชาวบ้านทั้งหลายจึงเรียกว่า "บางพลี" และเรียกวัดพลับพลาชัยชนะสงครามอีกนามว่า "วัดบางพลี" "วัดบางพลีใหญ่ใน" หรือ "วัดหลวงพ่อ"ต " เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ด้านในอาณาเขตกว้างขวางและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์ใหญ่ คือ หลวงพ่อโต ซึ่งนับเป็นมิ่งมงคลของวัด ต่อมาด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ได้มีการก่อสร้างวัดขึ้นอีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางด้านนอกจึงเรียกว่า "วัดบางพลีใหญ่กลาง"