วัดพระธาตุจอมกิตติ

ที่ตั้ง : บ้านจอมกิตติ หมู่ 6 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 57150

ประวัติความเป็นมา

          พระเจ้าพังคราช เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรโยนกเชียงแสน ขึ้นครองราชย์ เมื่อ พ.ศ. 1458 มีราชโอรสคือ พระเจ้าพรหมมหาราชทรงสร้างวัดพระธาตุจอมกิตติ เป็นเจดีย์ ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง เพื่อบรรจุพระบรมธาตุนอกกําแพงเมืองเชียงแสน พระธาตุเจดีย์ หรือบรมธาตุเจดีย์ มีลักษณะฐานล่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ย่อมุมเป็น เรือนธาตุ (ย่อมุมรองรับ) ซึ่งมีซุ้มที่ศประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆังกลม

วัดพระธาตุจอมกิตติ

          วัดพระธาตุจอมกิตติ เป็นโบราณสถานที่พุทธศาสนิกชนจะต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะบูชา เมื่อมายังเมืองเชียงแสน นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังเป็นจุดชมวิวมองเห็นตัวเมืองเชียงแสน ด้วย อีกทั้งองค์พระธาตุจอมกิตตียังมีประวัติศาสตร์การก่อสร้างที่น่าสนใจ ภายในวัดเป็นรูปแบบทาง ศิลปกรรมที่สวยงาม ดังนั้นวัดพระธาตุจอมก็ตตีจึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงแสน เชื่อกันว่า ถ้าได้มากราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานจะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศ ผู้คนสรรเสริญ เป็นเจ้าคนนายคน

วัดพระธาตุจอมแจ้ง

          วัดพระธาตุจอมแจ้งบนดอยน้อยนี้ เกิดในสมัยที่เจ้าสุวรรณคล้าน มาบูรณะพระธาตุจอมกิตติแล้ว และสร้างวัดพระธาตุจอมแจ้งขึ้นมาในปี พ.ศ. 2030 ส่วนวัดพระธาตุจอมกิตตินั้น เมื่อปี พ.ศ. 2500 พระครูสังวรสมาธิวัตรแห่งสํานักวิปัสนาเขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น ชาวเชียงแสนได้จัดตั้งสํานักสงฆ์ขึ้นมาที่เชิงดอยพระธาตุจอมกิตติ และได้ย้ายขึ้นไปสร้างวัตอยู่บน เชิงพระธาตุ ในภายหลังจึงได้มีการสร้างบันไดขึ้นอุโบสถที่หันหน้าสู่แม่น้ำโขง สร้างซุ้มประตู โขงโยนก 4 ซุ้ม ประตูประจํา 4 ทิศ

พระบรมรูปพระเจ้าพรหมมหาราช

          พระเจ้าพังคราชน้ำพระโกศเงินพระโกศทอง และพระโกศแก้วมารองรับ พระบรมธาตุทั้ง 11 องค์ ประทานแก่พระเจ้าพรหมมหาราช นําไปประดิษฐานไว้บนดอยน้อย หรือ จอมกิตติ ซึ่งตามตํานานตั้งเต็มบอกว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาในสมัยพุทธกาลนั้นพระพุทธเจ้าได้ประทาน พระเกศธาตุประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งโรจน์ ในเมืองเชียงแสน พระเจ้าพรหมมหาราช ทรงใช้ช่างก่อพระเจดีย์ขึ้น และเรียกพระเจดีย์ องค์นี้ว่า พระธาตุจอมกิตติ