share line share line

ประวัติความเป็นมา

 นามเดิม  ชื่อวัดวังน้ำวน   เพราะวัดตั้งอยู่ติดคลองน้ำ ๓ สาย  คือ ๑. คลองบางกอกใหญ่ (อยู่ด้านทิศเหนือคือของวัด) ๒. คลองบางน้ำชน (อยู่ทิศตะวันตกของวัด) ๓. คลองท่าพระ (อยู่ด้านทิศพายัพของวัด) มาจดชนติดกันเป็นเหมือนสี่แยก เวลานำทะเลหนุนขึ้น  น้ำเค็มไหลทะลักเข้ามาตามคลองบางกอกใหญ่บ้าง  ไหลทะลักเข้ามาทางคลองบางน้ำชนบ้าง ส่วนคลองบางกอกใหญ่ตามปกติน้ำจืดจะไหลมาตามคลองทางเขตภาษีเจริญ ก็ไหลมาชนกับน้ำเค็ม  ตรงกันข้ามระหว่างคลองท่าพระน้ำจืดก็ไหลมาชนกับคลองบางกอกใหญ่ จึงทำให้น้ำที่ไหลมานั้นชนกัน  ทำให้น้ำเกิดการหมุนเวียนเป็นวังวนขึ้น ชาวบ้านจึงเรียกสถานที่แถบนั้นว่าวังน้ำวน เมือชาวบ้านได้สร้างวัดขึ้นจึงเรียกวัดนั้นว่า "วัดวังน้ำวน" เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา  ตอนปลาย  โดยมีชาวมอญกลุ่มหนึ่งซึ่งได้อพยพม่าโดยทางเรือจากกาญจนบุรี เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่แทบริมคลองบางกอกใหญ่  และสถานที่แถบนี้เป็นชัยภูมิของทหารไทยได้ซุ่มยิงเรือข้าศึก  จึงเรียกสถานที่นี้ว่า  ตำบลบังยิงเรือ  ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าบางยี่เรือ  พอสงบศึกแล้วจึงได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้น  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธาน เพื่อจะได้ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือ"   แก้เป็นคำว่า   "เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่แถบริมคลองบางกอกใหญ่  แล้วได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือกันที่วัด  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธานในการสร้างวัด   ต่อมา  เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราช  ได้ตั้งค่ายรวมพลทหาร ณ สถานที่โพธิ์สามต้น เพื่อกู้ชาติ และเมื่อข้าศึกพม่ารู้ว่า ค่ายทหารพระเจ้าตากสินอยู่ที่โพธิ์สามต้น  จึงได้ยกทัพเรือมาเพื่อรบตีทหารให้แตก  พระเจ้าตากสินผู้รู้หลักตำราพิชัยสงคราม  จึงรับสั่งให้ทหารหารมีพระยาพิชัยดาบหักเป็นต้น แบ่งทหารออกเป็นกองๆ  เพื่อดักซุ่มโจมตีทหารพม่าที่มาตามคลองนำ โดยให้อยู่ตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ริมข้างคลองนำทุกๆ สายที่มาทางโพธิ์สามต้น และพระยาพิชัยดาบหัก  พาทหารหารมาดักซุ่มโจมตีที่วัดราชคฤห์  โดยยิงปืนใส่ทหารพม่าที่มาจอดเรืออยู่ที่วังนำวน  จึงทำให้ทหารพม่าล้มตายบ้าง  บางท่านก็ลบหนีไปได้   เมื่อกอบกู้ชาติได้แล้ว   พระองค็จึงคิดบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้  โดยรับสั่งมอบหมายให้พระยาพิชัยดาบหัก ทหารเอกราชองค์รักษ์  มาควบคุมดูแลบูรณปฏิสังขรณ์การก่อสร้างวัด  ต่อมา เมื่อพระเจ้าตากสินสิ้นพระชนม์แล้ว  โดยอาศัยสถานที่นี้เป็นที่ยิงเรือรบของข้าศึก    และสถานที่แทบนี้เป็นชัยภูมิของทหารไทยได้ซุ่มยิงเรือข้าศึก  จึงเรียกสถานที่นี้ว่า  วัดบังยิงเรือ พอสงบศึกแล้วจึงได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้น  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธาน เพื่อจะได้ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือ  ต่อมาเนื่องจากมีวัดอยู่ใกล้กัน  ๓  วัด  จึงเรียกชื่อตามตำบล  วัดนี้ตั้งอยู่ทางเหนือน้ำไหลจึงเรียกว่า  วัดบางยี่เรือเหนือ (วัดราชคฤห์)  วัดบางยี่เรือกลาง  (วัดจันทาราม)  วัดบางยี่เรือใต้  (วัดอินทาราม)  แต่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า “วัดมอญ”  สัณนิฐานว่าคนมอญช่วยกันสร้างและพระมอญอยู่จำพรรษาประจำอยู่วัดนี้มาก  จึงเรียกชื่อว่าวัดมอญ       ต่อมา  สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ได้กู้ชาติไทยได้เสร็จแล้ว  จึงได้สร้างเมืองขึ้นใหม่  ให้เป็นราชธานี สถาปนา ชื่อว่า  "กรุงธนบุรี"  และได้ขึ้นครองราชย์  จากนั้น  พระองค์พร้อมด้วยทหารคู่ใจ  คือพระยาสีหราชเดโช  (พระยาพิชัยดาบหัก)  ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบางยี่เรือเหนือ มีสร้างพระอุโบสถสร้างพระปรางค์เหลี่ยมย่อไม้ยี่สิบ  อยู่ทั้ง  ๔  ด้านของพระอุโบสถ สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่นำมาจากกรุงราชคฤห์แห่งประเทศอินเดียสร้างพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง และสร้างภูเขาจำลอง  (ภูเขามอ)  พร้อมทั้งสถูปนำเอาพระบรมธาตุมาบรรจุไว้ เพื่อให้เป็นที่สักการบูชาแก่พุทธศาสนิกชนสืบมา  ต่อมา  พระเจ้าตากสินมหาราชได้สวรรคต ส่วนพระยาสีหราชเดโช  ได้สิ้นชีวิตลงตามพระเจ้าตากสิน  ได้นำเอาศพบรรจุไว้ที่วัดบางยี่เรือ

ที่มา wikipedia