ข้อกำหนดประเพณีของศาสนาอิสลาม มีดังนี้
1 งานฉลองทารกแรกเกิด เมื่อทารกคลอดจากครรภ์มารดา สิ่งแรกที่มุสลิมปฏิบัติ คือ กล่าวถ้อยคำที่ข้างหูขวาและหูซ้ายของทารก เพอปลูกฝังคำ สอนเรื่อง ความศรัทธาในพระเจ้าและศาสดาของอิสลาม จากนั่นตั่งชื่อที่มี ความหมายดีงามแก่ทารก หลังจากคลอดได้ ๗ วัน โกนผมไฟแก่ทารก หากผู้ปกครองมีความสามารถก็จะจัดงานเลี้ยงฉลองโดยทำอาหารจาก เนื้อแพะและเนอแกะ จากนั้นต้องเลี้ยงดูให้มีสุขภาพพลานามัย มีความสุข ความอบอุ่น ฝึกฝนให้ปฏิบัติศาสนา อบรมมารยาทและให้ความรู้ เมื่อครบ ๗ ขวบ ฝึกให้ทำละหมาดเพื่อสร้างศาสนธรรม
2 การแต่งงาน มุสลิมมีขนตอนง่ายๆ ได้แก่ การสู่ขอฝ่ายชาย จะพาผู้ใหญ่ไปเจรจาสู่ขอหญิงสาวและตกลงกำหนดพิธี เรือนหองานเลี้ยงฉลองฯลฯ สิ่งสำคัญคือ ตกลงเรื่องมะฮัร (ทรัพย์สิน) ที่ฝ่ายชายจะมอบให้แก่เจ้าสาว ซึ่งถือเป็นสิทธิ์เฉพาะของเจ้าสาวพิธีแต่งงาน หรือเรียกว่า พิธีนิก๊ะห์ จัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว หรือมัสยิดในชุมชนของเจ้าสาว หรือที่ใดตามความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย ผู้อยู่ในพิธีคือผู้ปกครองของเจ้าสาวและตัวเจ้าบ่าว โดยมีมะฮัรวางอยู่ตรงหน้า มีพยานเป็นชายชาวมุสลิม ๒ คน เมื่อผู้ปกครองเจ้าสาวกล่าวยกเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวโดยอ้างถึงมะฮัรที่ตกลงกัน เจ้าบ่าวกล่าวรับเป็นอันเสร็จพิธี ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีมักอ่านพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอาน และอิหม่ามหรือผู้อาวุโสแสดงธรรมเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของสามีภรรยาและหลักการครองเรือน งานเลี้ยงฉลอง หลังพิธีแต่งงาน เจ้าภาพจะจัดงานเลี้ยงฉลอง (งานวะลีมะห์) ซึ่งไม่นิยมจัดหรูหราเกิน กำลังจนเป็นหนี้สิน
3 พิธีสุหนัต หรือ คิตาน ในภาษาอาหรับ หมายถึงการขลิบ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายตามหลักการอิสลาม เพื่อเป็นไปตามจริยวัตรท่านนบีมุฮัมมัด ผู้ปกครองจะพิจารณาว่าเมื่อใดสมควรทำคิตาน
4 การตาย เมื่อคนใกล้ชิดญาติมิตรเสียชีวิต ก็จัดพิธีตั้งศพและเยี่ยมเยียนศพ การตั้งศพจะตั้งไว้ที่บ้านหรือที่มัสยิด เพื่อให้ญาติมิตรได้มาเยี่ยมและขอพรจากพระเจ้าให้แก่ผู้ตายและถามทุกข์สุขเป็นกำลังใจแก่ครอบครัวของผู้ตาย อาบน้ำศพให้สะอาดทั้งร่างกาย ห่อศพด้วยผ้าขาวให้มิดชิด ต่อจากนั้นวางศพบนแคร่หรือใส่โลง แล้วเคลื่อนศพไปยังมัสยิดเพื่อทำพิธีละหมาดขอพรให้ศพ ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ ๕ นาที เมื่อเสร็จแล้วจะเคลื่อนศพไปฝังในหลุมที่กุโบร์ หรือสุสาน จะฝังทั้งโลง หรือเฉพาะศพก็ได้ โดยวางศพให้นอนตะแคงขวาหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกับเวลาที่มุสลิมละหมาดประจำวัน หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีซึ่งยืนเรียงรายรอบหลุมศพจะขอพรจากพระเจ้าให้แก่ผู้ตายอีกครั้ง มุสลิมบัญญัติให้ทำพิธีศพโดยเร็ว หากไม่มีเหตุจำเป็นจะกระทำให้แล้วเสร็จภายใน ๑ วัน (๒๔ ชั่วโมง) หลังจากเสียชีวิต
การแต่งกาย อิสลามกำหนดไว้อย่างรัดกุม มิให้เปิดเผยเน้นสัดส่วน ห้ามผู้ชาแต่งตัวเป็นหญิงและหญิงทำตัวเป็นชาย เพศชายต้องปกปิดร่างกายอย่างน้อยตั้งแต่สะดือจนถึงหัวเข่าห้ามใส่ผ้าไหมห้ามใส่ทองคำ เพศหญิง ต้องปกปิดร่างกายทั้งหมดและคลุมศีรษะเปิดเผยได้ทั้ง ๒ ข้าง ส่วนอาหารการกิน อิสลามวางข้อจำกัดในการบริโภค เช่น จำแนกระหว่างสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) และสิ่งอนุมัติตามที่ศาสนากำหนและรวมถึงสุขอนามัยด้วย (ฮะลาล) ก่อนรับประทานอาหารและสิ้นสุด การรับประทานให้กล่าวพระนามอัลลอฮ์ และขอบคุณอัลลอฮ์

ข้อกำหนดประเพณีของศาสนาอิสลาม มีดังนี้
1 งานฉลองทารกแรกเกิด เมื่อทารกคลอดจากครรภ์มารดา สิ่งแรกที่มุสลิมปฏิบัติ คือ กล่าวถ้อยคำที่ข้างหูขวาและหูซ้ายของทารก เพอปลูกฝังคำ สอนเรื่อง ความศรัทธาในพระเจ้าและศาสดาของอิสลาม จากนั่นตั่งชื่อที่มี ความหมายดีงามแก่ทารก หลังจากคลอดได้ ๗ วัน โกนผมไฟแก่ทารก หากผู้ปกครองมีความสามารถก็จะจัดงานเลี้ยงฉลองโดยทำอาหารจาก เนื้อแพะและเนอแกะ จากนั้นต้องเลี้ยงดูให้มีสุขภาพพลานามัย มีความสุข ความอบอุ่น ฝึกฝนให้ปฏิบัติศาสนา อบรมมารยาทและให้ความรู้ เมื่อครบ ๗ ขวบ ฝึกให้ทำละหมาดเพื่อสร้างศาสนธรรม
2 การแต่งงาน มุสลิมมีขนตอนง่ายๆ ได้แก่ การสู่ขอฝ่ายชาย จะพาผู้ใหญ่ไปเจรจาสู่ขอหญิงสาวและตกลงกำหนดพิธี เรือนหองานเลี้ยงฉลองฯลฯ สิ่งสำคัญคือ ตกลงเรื่องมะฮัร (ทรัพย์สิน) ที่ฝ่ายชายจะมอบให้แก่เจ้าสาว ซึ่งถือเป็นสิทธิ์เฉพาะของเจ้าสาวพิธีแต่งงาน หรือเรียกว่า พิธีนิก๊ะห์ จัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว หรือมัสยิดในชุมชนของเจ้าสาว หรือที่ใดตามความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย ผู้อยู่ในพิธีคือผู้ปกครองของเจ้าสาวและตัวเจ้าบ่าว โดยมีมะฮัรวางอยู่ตรงหน้า มีพยานเป็นชายชาวมุสลิม ๒ คน เมื่อผู้ปกครองเจ้าสาวกล่าวยกเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวโดยอ้างถึงมะฮัรที่ตกลงกัน เจ้าบ่าวกล่าวรับเป็นอันเสร็จพิธี ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีมักอ่านพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอาน และอิหม่ามหรือผู้อาวุโสแสดงธรรมเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของสามีภรรยาและหลักการครองเรือน งานเลี้ยงฉลอง หลังพิธีแต่งงาน เจ้าภาพจะจัดงานเลี้ยงฉลอง (งานวะลีมะห์) ซึ่งไม่นิยมจัดหรูหราเกิน กำลังจนเป็นหนี้สิน
3 พิธีสุหนัต หรือ คิตาน ในภาษาอาหรับ หมายถึงการขลิบ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายตามหลักการอิสลาม เพื่อเป็นไปตามจริยวัตรท่านนบีมุฮัมมัด ผู้ปกครองจะพิจารณาว่าเมื่อใดสมควรทำคิตาน
4 การตาย เมื่อคนใกล้ชิดญาติมิตรเสียชีวิต ก็จัดพิธีตั้งศพและเยี่ยมเยียนศพ การตั้งศพจะตั้งไว้ที่บ้านหรือที่มัสยิด เพื่อให้ญาติมิตรได้มาเยี่ยมและขอพรจากพระเจ้าให้แก่ผู้ตายและถามทุกข์สุขเป็นกำลังใจแก่ครอบครัวของผู้ตาย อาบน้ำศพให้สะอาดทั้งร่างกาย ห่อศพด้วยผ้าขาวให้มิดชิด ต่อจากนั้นวางศพบนแคร่หรือใส่โลง แล้วเคลื่อนศพไปยังมัสยิดเพื่อทำพิธีละหมาดขอพรให้ศพ ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ ๕ นาที เมื่อเสร็จแล้วจะเคลื่อนศพไปฝังในหลุมที่กุโบร์ หรือสุสาน จะฝังทั้งโลง หรือเฉพาะศพก็ได้ โดยวางศพให้นอนตะแคงขวาหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกับเวลาที่มุสลิมละหมาดประจำวัน หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีซึ่งยืนเรียงรายรอบหลุมศพจะขอพรจากพระเจ้าให้แก่ผู้ตายอีกครั้ง มุสลิมบัญญัติให้ทำพิธีศพโดยเร็ว หากไม่มีเหตุจำเป็นจะกระทำให้แล้วเสร็จภายใน ๑ วัน (๒๔ ชั่วโมง) หลังจากเสียชีวิต
การแต่งกาย อิสลามกำหนดไว้อย่างรัดกุม มิให้เปิดเผยเน้นสัดส่วน ห้ามผู้ชาแต่งตัวเป็นหญิงและหญิงทำตัวเป็นชาย เพศชายต้องปกปิดร่างกายอย่างน้อยตั้งแต่สะดือจนถึงหัวเข่าห้ามใส่ผ้าไหมห้ามใส่ทองคำ เพศหญิง ต้องปกปิดร่างกายทั้งหมดและคลุมศีรษะเปิดเผยได้ทั้ง ๒ ข้าง ส่วนอาหารการกิน อิสลามวางข้อจำกัดในการบริโภค เช่น จำแนกระหว่างสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) และสิ่งอนุมัติตามที่ศาสนากำหนและรวมถึงสุขอนามัยด้วย (ฮะลาล) ก่อนรับประทานอาหารและสิ้นสุด การรับประทานให้กล่าวพระนามอัลลอฮ์ และขอบคุณอัลลอฮ์